รีวิวฉีดโบท็อกซ์กรามและหางตาครั้งแรกในชีวิต @Mega Clinic - amoog

Breaking

11 สิงหาคม 2563

รีวิวฉีดโบท็อกซ์กรามและหางตาครั้งแรกในชีวิต @Mega Clinic

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ เมื่อที่ผ่านมาถ้าใครได้ติดตามเพจของมุก [I’m Moog - Blog] ก็จะเห็นว่ามุกแอบไปหาคุณหมอที่  Mega Clinic  มาซึ่งมุกก็ไปฉีดโบท็อกมา บอกก่อนเลยว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตของมุกเลย เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทั้งหมดเลยว่ารู้สึกไงบ้าง แอบบอกเลยว่าประทับใจคลินิกนี้มาก



มุกไปที่  Mega Clinic  สาขาใหม่ที่สยาม เดินทางง่ายไปทำธุระแถวนั้นพอดีด้วย เมกะคลินิกสาขาสยามอยู่ฝั่งสยามร้อน ฝั่งตรงข้าม After You เลย



มาถึงก็จะต้องวัดอุณภูมิหน่อยในช่วงโควิดแบบนี้ พร้อมยื่นบัตรประชาชนแล้วก็จะได้รับน้ำดื่มมา 1 ขวด ไว้ดื่มระหว่างรอ




หลังจากนั้นก็ไปที่หน้าเคาท์เตอร์เขียนประวัติทั่วไปเลยทุกคนและก็โรคประจำตัวถ้ามี พี่ๆพนักงานหน้าเคาท์เตอร์น่ารักมาก คุยกันเองมาก แล้วพี่ๆพนักงานก็จะถามด้วยว่าเราอยากทำอะไรหรือกังวลปัญหาไหนพิเศษไหม


ซึ่งสิ่งที่มุกกังวลก็คือหางตาเลยจ้า เป็นคนที่ยิ้มแล้วหางตาเกิดร่อง เป็นมาตั้งแต่มัธยมไม่รู้ทำไม ตอนนี้ก็อายุขึ้นอีกก็เลยไม่อยากให้มันมีกลัวดูแก่555555



หลังจากนั้นพี่พนักงานก็จะให้ชั่งน้ำหนัก ดูโครงหน้า ถ่ายรูปไว้หน่อย นอกจากทางคลินิกจะถ่ายรูปแล้ว ตัวมุกก็ขอถ่ายรูปเล่นเองด้วย555555



มาจ่ะเข้าพบคุณหมอกันค่า คุณหมอก็สอบถามเรื่องความกังวลของเราก่อนเรียกง่ายๆว่าเราอยากสวยตรงไหนเพิ่ม5555 เราก็บอกไปว่าเป็นเรื่องของหางตาและส่วนอื่นก็อยากให้คุณหมอลองประเมินดูเลยค่าว่าตรงไหนเราควรแก้ ด้วยความที่ทำครั้งแรกเลยไม่รู้จะอะไรยังไงดี



คุณหมอก็แนะนำว่าลดกรามเราลงหน่อยก็ได้ พวกปริมาณโบท็อกที่จะฉีดคุณหมอก็จะประเมินให้ คุณหมอลองให้กัดฟันแล้วปล่อยดู เพื่อดูว่ากล้ามเนื้อส่วนกรามเยอะแค่ไหน  


สรุปก็คือวันนี้มุกจะฉีดอยู่หลักๆคือ 2 ที่ เป็นฉีดโบท็อกทั้งคู่ คือ

  •  บริเวณร่องหางตา (พวกตีนกาอะไรพวกนั้นก็จะเก็บหมดเลยที่อยู่หางตา)
  •  บริเวณกรามทั้ง

แต่ละข้างคุณหมอจะประเมินว่าต้องฉีดโบท็อกให้เท่าไหร่ เพราะบางทีกรามทั้ง 2 ข้างของเราอาจจะไม่เท่ากัน บางคนชอบเคี้ยวข้าวข้างเดียว กล้ามเนื้อกรามข้างนั้นก็จะเยอะ




ถึงเวลาขึ้นเขียง เอ้ย ขึ้นเตียงกันแล้ว ใจเต้นมาก เอาจริงๆส่วนตัวเป็นคนกลัวเข็มก็เลยแอบหวั่นๆ แล้วเข็มจิ้มบนหน้ายิ่งกลัว (อันนี้เป็นความรู้สึกตอนก่อนทำนะ บ้าบอคอแตกไปเอง)



ขวดที่มุกฉีดวันนี้เป็นตัวกล่องสีชมพู ตัวนี้เลย คุณหมอจะประเมินทุกอย่างให้เลย ไม่ต้องกังวลว่าชั้นไปแล้วจะไปบอกอะไรเพราะไม่เคยทำมาก่อน เพราะนี่ก็เป็นประสบการณ์ครั้งแรกของมุกเหมือนกัน ไปแบบไม่รู้อะไรจริงๆ


เริ่มต้นพี่ผู้ช่วยหมอจะมาเช็ดทำความสะอาดผิวของเราบริเวณที่จะฉีดก่อน แต่งหน้ามาได้นะคะทุกคนไม่ได้ลบทั้งหน้า เดินสยามเล่นต่อได้ 


หลังจากนั้นขวดสีขาวๆฟ้าๆ จะเป็นขวดสำหรับประคบเย็นเพื่อให้เราเกิดการชาบริเวณนั้นเวลาฉีดจะได้ไม่เจ็บ ข้อดีของขวดนี้จากที่มุกเคยประคบเย็นแบบอื่นมา คือขวดนี้จะไม่มีหยดน้ำเกิดขึ้นบนผิวของเรา


พอชาแล้วคุณหมอก็จะเริ่มฉีดเลยค่ะ คุณหมอจะให้กัดฟันสลับปล่อย ความรู้สึกคือเหมือนมีอะไรมาจิ้มแหละแต่ไม่ได้เจ็บเวอร์อะไรเลย เพราะทางคลินิกเค้าประคบเย็นให้ ความรู้สึกของตอนฉีดกรามคือมันเป็นแบบหน่วงๆตุ่ยๆ แต่ไม่ได้ทรมานอะไร พูดคุยได้ปกติเลย



หลังจากนั้นคุณหมอก็ฉีดบริเวณหางตาต่อ คุณหมอแจ้งว่าอาจจะมีอาการแสบเล็กน้อย แต่ส่วนตัวไม่รู้สึกแสบเลยนะอันนี้ไม่ได้โกหกน้า แต่จะรู้สึกว่าเข็มจิ้มกว่าบริเวณกราม แต่ก็ไม่เจ็บเท่าเจาะเลือดที่แขน เพราะผ่านการประคบเย็นแล้ว



หลังฉีดเสร็จยังเห็นว่าตัวโบท็อกยังอยู่เป็นจุดๆอยู่ต้องรอสักพัก 2-3 ชม.ก็จะดีขึ้น เอาจริงๆก็ไปเดิน Shopping ต่อได้นะบวกกับช่วงนี้ใส่แมสอยู่แล้วก็ไม่ได้เป็นที่น่าสังเกตุอะไร



หลังจากฉีดเสร็จเรียบร้อยก็ออกมาพบพี่ๆหน้าเคาท์เตอร์ต่อ พี่ๆพนักงานก็จะแนะนำการดูแลตัวเองใน 1 อาทิตย์ที่จะต้องเคร่งครัดสักหน่อยก็คือ

  • งด! แอลกอฮอล์ 3 วัน
  • งดซาวน่า อบไอน้ำ 1 สัปดาห์
  • งดนวดคลึงแรงๆ
  • งดพวกวิตามินและคอลลาเจน 1 สัปดาห์


พวกนี้ก็ไม่ยากอะไรเกินไปนะมุกว่า ใครที่ก่อนจะไปฉีดก็เคลียตารางห้ามนัดปาร์ตี้กับเพื่อนหลังฉีดหน่อยละกันค่ะ  สงสัยตรงไหนก็ถามได้เลยพี่ๆทุกคนตอบให้หมด พร้อมกับให้หมากฝรั่งมา เพื่อให้เคี้ยวให้ยาบริเวณกรามกระจายได้ทั่ว เคี้ยวแค่หมดความหวานก็พอแล้วค่า

"บางทีบริเวณที่ฉีดอาจจะมีรอยเข็มแดงๆอยู่ ก็จะหายเองได้ไม่เกิน 3 วันนะคะทุกคนไม่ต้องกังวล ติดขัดอะไรคือติดต่อทางคลินิกได้เลย"

หลังจากนั้นวันถัดมาก็จะมีพี่พนักงานโทรมาสอบถามว่าเป็นยังไงบ้าง ฉีดไปแล้วโอเคไหม มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ชอบจริงๆเค้าใส่ใจมากๆ

 

ผ่านไป 1 เดือน


ทางคลินิกจะมีนัด Follow up กันหน่อย ครั้งนี้มาก็ยังคงมีวัดความดันอะไรทุกอย่างอยู่และพี่ๆพนักงานก็ถามว่ากังวลอะไรเพิ่มเติมไหม เพราะว่าครั้งนี้ที่มา ถ้าไม่เห็นผลทางคลินิกเค้ายืนยันว่าย้ำให้ฟรี! OMG




เมื่อพบคุณหมอคุณหมอจะให้ลองยิ้มให้ดูว่าหางตาสลายหายไหม ดีขึ้นไหม ผลก็ดีขึ้นกว่าเดิมจริงๆ ส่วนตรงกรามคุณหมอก็บอกว่าแบบนี้ค่อนข้างโอเคเลยนะ ดูธรรมชาติไม่เยอะไป ที่คุยกับคุณหมอคือรูปหน้าของมุก เป็นคนมีโครงหน้าตอบ ถ้าเอาเข้าเยอะก็จะทำให้ดูตอบดูโทรม ซึ่งตัวมุกก็เห็นด้วยกับหมอจริงๆ 


คือเอาจริงๆหมอเค้าใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆนะ ไม่ทำให้โอเวอร์เกินมุกชอบแบบนี้มากๆ ไม่รู้ใครสังเกตไหมว่าหน้าเปลี่ยนไปจากรูปก่อนๆหน้าจริงๆ



พบหมอเสร็จเร็วเกินคาด ไหนๆก็มาแล้วเติมวิตามินให้ผิวอีกหน่อยแล้วกันค่ะ ตัวที่มุกเลือกเติมเป็นตัว Body White ตัวนี้เน้นช่วยให้ผิวกระจ่างใส สุขภาพดีขึ้น จัดไป 1 กระปุกค่า




ก่อนจบกระทู้ก็มีภาพ Before-After มาเปรียบเทียบให้เห็นความเปลี่ยนแปลงกันหน่อย ช่วงบริเวณกรามก็คือยุบเข้าไปชัดมาก (ต้องบอกก่อนว่าอย่าเข้าใจผิดว่าคางไม่เห็นเข้ารูปชัดเจนเลย มุกฉีดกรามน้าทุกคน) หายตาก็หายไปเวลายิ้มหัวเราะก็ไม่ต้องกังวลแล้วเย้ๆ คุณหมอบอกมาว่าโบท็อกจะอยู่ได้ถึง 6 เดือนเลยน้าทุกคน คุ้มจริงๆ



ส่วนตัวมุกเอาจริงๆประทับใจที่นี่หลายอย่าง ตั้งแต่การบริการพนักงาน friendly การให้คำแนะนำคุณหมอ ความเบามือของคุณหมอและพี่พยาบาล และที่ชอบมากๆคือความใส่ใจของทางเมกะคลินิก ใส่ใจเรามาก โทรมาถามอีกด้วย พูดไปก็ดูโอเวอร์ แต่เป็นแบบนั้นจริงๆ ถือว่าโชคดีมากที่มาฉีดโบท็อกครั้งแรกก็เจอคลินิกที่ดีเลย 


อยากแนะนำให้เพื่อนๆลองไปดู เดินทางก็ง่ายที่สยามเอง มีโปรโมชั่นเยอะมาก มีกิจกรรมแจกก็บ่อยต้องไปเล่นจริงๆของฟรี55555 และเห็นว่ามีหลายสาขาด้วย 


ใครสนใจลองทักไปคุยดูได้นะคะที่เพจ MEGA CLINIC 

หรือไลน์ @megaclinic (มี@)
IG : mega.clinic
โทร 082-545-9222

3 ความคิดเห็น:

  1. อยากทำบ้างค่าาา สวยขึ้นมากเลยค่ะคุณมุก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ลองดูสักครั้งค่ะ ไม่เจ็บค่า บอกเลยว่าวงการโบท็อกเข้าแล้วออกไม่ได้555555

      ลบ